เปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่าง LG OLED TV กับ LG SUPER UHD TV

สวัสดีครับนักอ่านทุกท่าน วันนี้ผมจะมาเปรียบเทียบเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่าง LG OLED TV ปี 2017 กับ LG SUPER UHD TV ปี 2017 กันครับ ว่าจะมีอะไรแตกต่างกันบ้าง ซึ่งจะช่วยให้ท่านได้เลือกทีวีตอบโจทย์ตรงไลฟ์สไตล์มากกว่าเดิมครับ

ข้อแตกต่างระหว่าง LG OLED TV กับ LG SUPER UHD TV

Design

01_G7_A_Picture_on_Glass

เรื่องดีไซน์ของ TV ทั้ง 2 ชนิดนั้นค่อนข้างเห็นความแตกต่างอย่างมาก เนื่องจาก LG OLED TV นั้นมีเม็ดพิกเซลที่สามารถกำเนิดแสงได้ด้วยตัวเอง เปิดและปิดได้อย่างเป็นอิสระต่อกัน จึงทำให้ด้านดีไซน์ของ LG OLED TV นั้นมีความบางเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบ LG SUPER UHD TV หรือ TV ชนิดอื่น ๆ โดย LG SUPER UHD TV ยังคงเป็น LCD Panel ทำให้ยังคงมีความหนานูนกว่านิดหน่อยครับ

Color

10500_170608150352a8

ถ้าให้พูดถึงเรื่องความสดของสีหน้าจอ LG SUPER UHD TV ปี 2017 นั้นได้อัพเกรดเรื่องนี้มามากเลยทีเดียว ด้วยเทคโนโลยี Nano Cell ™ ทำให้สีมีความสดทุกองศา เมื่อนั่งมองจากมุมข้างของจอ 60 องศาขึ้นไป ความสมจริงของสีสันจะลดลงเพียงแค่ 5% เท่านั้น เมื่อเทียบกับสมัยก่อนแล้วที่ลดมากถึง 52% เลยทีเดียวครับ ทำให้เรื่องสีนั้น LG OLED TV กับ LG SUPER UHD TV มีความต่างกันน้อยมากจริง ๆ

Black Color

lg-perfect-black-oled-tv_f5a7dbef-599d-4a45-9fd6-8d5022f2055c

ถ้าหัวข้อเป็น LG OLED TV สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือสีดำของ TV ประเภทนี้ครับ เนื้องจาก LG OLED TV นั้นขึ้นชื่อเรื่องสีดำสนิทมากกว่า Panel อื่น ๆ เพราะเม็ดพิกเซลที่สามารถกำเนิดแสงได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้ เปิดและปิดได้อย่างอิสระ ฉะนั้นสีดำจึงจะมืดสนิทมากกว่า TV ประเภทอื่น ๆ ครับ แต่ LG SUPER UHD TV ปี 2017 นี้ ได้อัพเกรดเรื่องสีดำให้มีความดำสนิทมากยิ่งขึ้นอย่าง SUPER Black (Local Dimming) โดย Local Dimming นั้นจะช่วยให้การแสดงสีดำนั้นทำได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงการแสดงสีสันและการแสดงรายละเอียดของภาพก็จะทำได้ดีขึ้นมากกว่ารุ่นก่อน ๆ ด้วยเช่นกันครับ แต่ถึงยังไงก็คงจะสู้ LG OLED TV แบบ 100% ไม่ได้นะครับ

Sound

Dolby Atmos

เรื่องเสียงในปี 2017 นี้ต้องยอมให้ทาง LG OLED TV เลยครับ เพราะว่า LG OLED TV นั้นใช้ระบบเสียง Dolby ATMOS ที่เป็น 4.2 Ch. ซึ่งจะมีการจำลองเสียงเป็นมิติขึ้นไปด้านบน ทำให้มีเสียงมาจากทั้งด้านบนและรอบทิศทางด้วยครับจึงจะทำให้เราได้ยินเสียงเครื่องบินหรือนกที่บินอยู่เหนือศรีษะของเราได้ครับ เปรียบเสมือนเราติดลำโพงไว้เหนือศรีษะนั่นเองครับ แต่โดยทาง LG Super UHD TV นั้นได้ใช้ระบบเสียง Sound Designed by Harman/Kardon ซึ่งเป็นระแบบเสียงแบบ 7.1 Ch. ทำให้มีเสียงรอบทิศทางเช่น และมีเสียงที่นุ่มลึก เพราะน่าฟังเช่นกันครับ

webOS 3.5 Smart TV

ทั้ง LG OLED TV และ LG SUPER UHD TV นั้นจะใช้ระบบ webOS 3.5 Smart TV เหมือนกันครับ

สำหรับผมนั้น LG OLED TV ก็ยังคงเป็นที่สุดของนวัตกรรมอยู่ดีครับ ทั้งฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเต็มสูบเลย ถึง LG SUPER UHD TV นั้นจะได้การอัพเกรดมามาก จนใกล้เคียงกับ LG OLED TV แต่ก็ยังคงเทียบไม่ติดอยู่ดี เนื่องจาก ดีไซน์ ความสดของสี ความดำสนิทของภาพที่แสดง รวมถึงเสียงที่ได้รับการอัพเกรดของ LG OLED TV นั้นมาแรงกว่าจริง ๆ แต่ราคานั้นก็แรงกว่า LG SUPER UHD TV ค่อนข้างมากครับ